บริษัทเป็นผู้ประกอบกิจการโรงไฟฟ้าในประเทศไทย ที่มีกิจการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ (ตามข้อมูลของ AWR Lloyd) ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรี โดยมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 440 เมกะวัตต์ และจัดเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าและพลังงานจากการกำจัดขยะที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยธุรกิจหลัก คือรับกำจัดขยะชุมชนเพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงขยะ และเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (“กฟผ.”) และ บมจ. ทีพีไอ โพลีน
ปัจจุบันบริษัทดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกหลายประเภท ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงขยะ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงทดแทนจากขยะชุมชน และเชื้อเพลิงหมุนเวียนอื่นๆ คาดว่าจะยกเลิกการใช้ถ่านหินได้ภายใน ปี 2568
บริษัทดำเนินธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค โดยมุ่งเน้นพลังงานสะอาด ทั้งเชื้อเพลิงทดแทนและโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภทต่างๆ บริษัทดำเนินการผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ และลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน เพื่อการจำหน่ายไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นอกจากนี้บริษัทรับกำจัดขยะมูลฝอยโดยการคัดแยกขยะและแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงและพลังงานเพื่อใช้ในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยมุ่งเน้นไฟฟ้าสีเขียว หรือ RE100 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เพื่อจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ รวมทั้งมีธุรกิจสถานีบริการน้ำมันและก๊าซ และบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานพาหนะ EV
ในปี 2567 บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง รวม 440 เมกะวัตต์ เป็นส่วนที่ผลิตเพื่อจำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 180 เมกะวัตต์ และผลิตจำหน่ายไฟฟ้าให้กับโรงงานปูนซิเมนต์ ของทีพีไอ โพลีน และบริษัทในเครือ รวม 260 เมกะวัตต์ โดยโรงงานทั้งหมด ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 299 ถนนมิตรภาพ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งภายในพื้นที่มีโรงงานผลิตเชื้อเพลิงขยะจำนวน 3 โรง รวม 18 สายการผลิต เพื่อรองรับขยะชุมชนที่นำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะ
บริษัทมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทน ผลิตพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อความเติบโตในธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเป็นองค์กรที่มีบทบาทในการแก้ปัญหาขยะมูลฝอยชุมชน ซึ่งมีข้อได้เปรียบในด้านประสบการณ์การดำเนินการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ รวมถึงการพัฒนาการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง มีแผนการจัดหาวัตถุดิบผ่านเครือข่ายพันธมิตรและคู่ค้า รวมถึงการใช้เชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท โดยมีทิศทางการดำเนินการธุรกิจที่สำคัญ ดังนี้
- การจัดการขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) บริษัทดำเนินการผลิตเชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้า โดยมีแนวทางในการดำเนินงานเพื่อลดการเกิดของเสียในการผลิตให้น้อยที่สุด และพัฒนาการนำของเสียที่เกิดขึ้นมาใช้ประโยชน์ หรือมีกระบวนการจัดการ เพื่อไม่ให้มีของเสียจากกระบวนการผลิตออกสู่ภายนอก ทั้งในรูปของแข็งและของเหลว และก๊าซ
- ควบคุมและตรวจวัดผลกระทบจากการผลิต เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้สูงกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน บริษัทมีการพัฒนากระบวนการผลิตและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการซ่อมบำรุงรักษา การปรับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง
- เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การลดต้นทุนการผลิตในทุกด้าน เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
- เพิ่มสมรรถนะของเครื่องจักรและการผลิตไฟฟ้า ให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุดตามปริมาณในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
- พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความชำนาญ และมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้า ให้เกิดการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพและมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ
- นำเทคโนโลยีการบริหารการจัดการข้อมูล (Data Center) และระบบ IOT เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการของบริษัท
- การสร้างพันธมิตร และเครือข่ายให้เติบโต ในการจัดหาขยะชุมชนหรือวัตถุดิบในการผลิต
- การสร้างมูลค่าเพิ่มจากของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตต่างๆ