การจัดการขยะและของเสีย (Waste Management)
การดำเนินธุรกิจของบริษัท ถือว่ามีส่วนสำคัญต่อการกำจัดขยะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิง ธุรกิจของบริษัท จึงเป็นธุรกิจที่มีนวัตกรรมนำขยะกลับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ อีกทั้งช่วยชุมชนในการลดปริมาณขยะซึ่งเป็นปัญหาระดับประเทศ และช่วยลดกระบวนการในการกำจัดขยะของหน่วยงานรัฐและเอกชนอื่น ๆ อันเป็นการประหยัดพลังงานทางอ้อม
อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันกระบวนการผลิตไฟฟ้าของบริษัท นำมาซึ่งการก่อให้เกิดกากขยะอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งกากขยะอุตสาหกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นหากขาดการบริหารจัดการในกำจัดที่ดีย่อมนำมาซึ่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนได้ ตลอดจนผลกระทบที่มีต่อธุรกิจของบริษัท อาทิ การยึดใบอนุญาตของบริษัท กรณีที่บริหารจัดการกากขยะอุตสาหกรรมไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด เป็นต้นบริษัท จึงให้ความสำคัญต่อการจัดการของเสียอย่างประสิทธิภาพและถูกต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด
เป้าหมายการดำเนินงาน
เป้าหมายระยะสั้น ภายใน 5 ปี |
เป้าหมายระยะยาว มากกว่า 5 ปี |
· ใช้ประโยชน์จากกากอุตสาหกรรมให้ได้ ≥ 95% ของปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละปี · ลดของเสียอันตรายลงอย่างน้อยปีละ 10% เทียบกับปีฐาน 2565 · ลดของเสียไม่อันตรายลงอย่างน้อยปีละ 10% เทียบกับปีฐาน 2565 |
· ใช้ประโยชน์จากกากอุตสาหกรรมให้ได้ ≥ 95% ของปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละปี · ลดของเสียอันตรายลงอย่างน้อยปีละ 10% · ลดของเสียไม่อันตรายลงอย่างน้อยปีละ 10% |
แนวบริหารจัดการ (GRI 306-1) (GRI 306-2)
บริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามแนวทาง “ขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste)” และได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยได้ควบคุม กำกับดูแล และพัฒนากระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าอัตราการปล่อยของเสียจากการประกอบกิจการของบริษัท อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเกณฑ์ระดับสูงสุดของการปล่อยของเสียที่ได้รับอนุญาต จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้ง บริษัทยังควบคุมคุณภาพของเสียที่ระบายออกมาเพื่อการติดตามและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นระยะเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐาน จึงกล่าวได้ว่าบริษัท ปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการปล่อยและการระบายของเสียเป็นอย่างดี
บริษัทมีการจัดการขยะและของเสียในกระบวนการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นระบบตามหลักการ 3R (Reduce Reuse Recycle) บริษัทมีการจัดการของเสียที่เกิดจากโรงไฟฟ้า โดยการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ตัวอย่างเช่น การนำเถ้าหนักและเถ้าลอยทั้งหมดไปใช้เป็นวัตถุดิบทดแทนที่โรงปูนซิเมนต์ บมจ.ทีพีไอ โพลีน
กระบวนการที่ใช้ในการรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับขยะ
- การจัดการกากอุตสาหกรรมต้องปฏิบัติตาม ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548
- การนำกากอุตสาหกรรมออกไปใช้ประโยชน์ เช่น เป็นเชื้อเพลิงทดแทน เป็นวัสดุทดแทน นำไป Recycle หรือ กำจัดทิ้ง ต้องขออนุญาตต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมทุกครั้ง แจ้งรายละเอียดของเสีย วิธีกำจัด น้ำหนัก และ ผู้รับกำจัด
- เมื่อต้องการนำกากอุตสาหกรรมออกไปใช้ประโยชน์ เช่น เป็นเชื้อเพลิงทดแทน เป็นวัสดุทดแทน หรือนำไป Recycle หรือ กำจัดทิ้ง ต้องจัดทำเอกสารกำกับการขนส่งทุกครั้งที่มีการขนส่ง เพื่อใช้เป็นหลักฐานตามกฎหมาย
- จัดทำบัญชีเพื่อเก็บข้อมูลและควบคุมน้ำหนักกากอุตสาหกรรมที่นำออกไปใช้ประโยชน์ เช่น เป็นเชื้อเพลิงทดแทน เป็นวัสดุทดแทนนำไป Recycle หรือ กำจัดทิ้ง
ผลการดำเนินงาน
ในปี 2567 บริษัทสามารถลดของเสียลงร้อยละ16.86 เมื่อเทียบกับปี 2565 (ปีฐาน) ซึ่งสามารถลดของเสียทั้งอันตรายและไม่อันตรายได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
โดยบริษัทได้นำกากอุตสาหกรรมซึ่งเป็นของเสียอันตรายและไม่อันตรายที่เกิดจากกระบวนการผลิตมาใช้ประโยชน์เพื่อเป็นเชื้อเพลิงทดแทน วัสดุทดแทน และนำไป recycle จำนวนรวม 16,383.13 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 100 ของปริมาณกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นรวม